รีวิวซีรี่ส์ THE BLOOD OF YOUTH ดรุณพเนจรท่องยุทธภพ
THE BLOOD OF YOUTH ดรุณพเนจรท่องยุทธภพ หลังเจ้าอาวาสวั่งโยวแห่งวัดหานสุ่ยมรณะ จึงได้เกิดเรื่องราวของโรงศพทองคำที่ล่ำลือว่าด้านในบรรจุสมบัติล้ำค่าหาใดเทียบหรือเคล็ดวิชาไร้เทียมทาน จึงเป็นที่ต้องการของชาวยุทธมากมายรวมทั้งคนของลัทธิมาร ซึ่งได้สร้างความลำบากให้กับถังเหลียนแห่งเมืองเสวี่ยเยว่ ผู้คุ้มกันเพื่อนำโรงศพทองคำนี้ส่งให้กับสำนักเก้ามังกรเมืองปี้หลัวเป็นอย่างมาก
เหลยอู๋เจี๋ย ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ให้เดินทางไปยังเมืองเสวี่ยเยว่ ระหว่างทางได้แวะพักที่โรงเตี้ยมเสวี่ยลั่วของเซียวเซ่อ และเพราะผดุงคุณธรรมทำให้เขาพังข้าวของในโรงเตี้ยมไปมากมาย เซียวเซ่อจึงคิดค่าเสียหายจากเขา เมื่อเหลยอู๋เจี๋ยไม่มีเงินจ่าย เพื่อทวงหนี้เซียวเซ่อจึงต้องเดินทางไปที่เมืองเสวี่ยเยว่กับเขา ระหว่างทางทั้งคู่ก็ได้เจอกับถังเหลียนที่คุ้มกับโรงศพทองคำและได้ช่วยเขาสู้กับนักฆ่าที่พยายามชิงโรงศพ ก่อนที่พวกเขาทั้งสาม ถังเหลียน เหลยอู๋เจี๋ยและเซียวเซ่อจะเดินทางไปที่เมืองซานกู้ ไปยังหอสาวงามเพื่อพบกับเทียนหนี่ว์หรุ่ย จึงถูกเตือนเกี่ยวกับนักฆ่าที่รอพวกเขาอยู่มากมาย และได้เจอกับเทียนว่ายเทียนคนของลัทธิมารที่วิชาบรรลุถึงแดนสวรรค์เซียวเหยาที่ต้องการชิงโรงศพทองคำเช่นเดียวกัน และจากการแย่งชิงจากทั้งนักฆ่าและคนของลัทธิมาร โรงศพทองคำที่ไม่รู้ว่าบรรจุอะไรก็ได้ถูกเปิดออก เป็นอู๋ซินที่บรรจุอยู่ภายใน พวกถังเถียนได้ต่อสู้กับเทียนว่ายเทียนเพื่อนำอู๋ซินส่งที่สำนักเก้ามังกรได้หรือไม่ และเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องไปติตามกันเอง
นักแสดงนำทั้งสามเหมือนเคาะออกมาจากอนิเมะชั่น ไม่ว่าจะเป็น เซียวเซ่อ (รับบทโดย: หลี่หงอี้) อู๋ซิน(รับบทโดย: หลิวเสวียอี้) และ เหลยอู๋เจี๋ย (รับบทโดย: อ๋าวรุ่นเผิง) ไม่ใช่แค่ตัวละครหลักเท่านั้นนักแสดงท่านอื่น ๆ ก็คล้ายคลึงกับฉบับอนิเมชั่นมาก ๆ ทีมผู้สร้างคงความเหมือนฉบับอนิเมะไว้กระทั่งภาษากายของตัวละคร องศามุมกล้อง รวมไปถึงท่วงท่าที่ตัวละครทำจนติดเป็นนิสัย เนื้อเรื่องมีการตัดทอนเหตุการณ์ยิบย่อยออกไปบ้าง ปรับเปลี่ยนชื่อตัวละคร ชื่อสำนัก และบทบาทของตัวละครบ้าง ปรับเปลี่ยนจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกหลายจุด แต่เค้าโครงหลักของเรื่องไม่ว่าจะฉบับซีรีส์หรืออนิเมะยังคงไว้ตามต้นฉบับจากนิยาย
จากคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของตัวละคร เราจะสัมผัสได้ถึงมิตรภาพของสหายที่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และความช่วยเหลือนั้นยังแฝงโมเม้นท์เล็ก ๆ ให้ได้เอาไปมโนแจ่มต่อได้ไม่สิ้นสุด ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความที่สองตัวละครหลักอย่างเซียวเซ่อกับอู๋ซินมีหลายอย่างคล้าย ๆ กัน จึงเข้าใจซึ่งกันและกันมากกว่าคนอื่น มีความห่วงใยเกื้อกูลซึ่งกันและกันตามประสาสหายที่สนิทกันมาก จนบางครั้งดูเหมือนจะรู้ใจกันมากเกินไป ทันกันไปหมดทุกอย่าง บวกกับออร่าความหล่องานดีของทั้งสองคนที่พอมายืนคู่กันแล้วมันดูลงตัว ดูเข้ากันไปหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะสีหน้าแววตาคำพูด ทำเอาชาววายอย่างเราหยุดจิ้นตามไม่ได้เลยทีเดียวเอกลักษณ์ของตัวละครและมิตรภาพอันแน่นแฟ้น
อีกหนึ่งจุดเด่นของเรื่องนี้นอกเหนือจากเรื่องราวในยุทธภาพ นั่นคือเรื่องราวของมิตรภาพเพื่อน ผู้สร้างจะค่อย ๆ ปูพื้นมิตรภาพของพวกเขาไปเรื่อย ๆ ใส่เรื่องราวน่ารักผสมความซุกซนตามวัย ของตัวละครเอกมาให้ได้ชมคั่นซีนตึงเครียด ทำให้เราค่อย ๆ ซึมซับไปกับมิตรภาพพวกเขา อีกจุดที่อดยิ้มตามไม่ได้คือเอกลักษณ์ของกลุ่มนักท่องยุทธภพกลุ่มนี้ที่ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนเป็นหลงทางตลอด สมกับชื่อเรื่องพเนจรโดยแท้ เหมือนเป็นธรรมเนียมประจำแก๊ง บรรยากาศการรวมแก๊งก็จะเป็นการขายขำ ขายความโบ๊ะบ๊ะเสียส่วนใหญ่ พลอยทำให้เราได้ผ่อนคลายไปกับเนื้อเรื่องในช่วงนี้
ซีรี่ส์แนว : กำลังภายใน, แฟนตาซี
ผู้กำกับ : อิ่นเทา เจ้าของผลงานกำกับซีรีส์ เทียบท้าปฐพี (WHO RULES THE WORLD) 2022
ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง : SHAO NIAN GE XING ชื่อไทย หมื่นยุทธ์พิชิตหล้า ใต้ฟ้าไร้พันธนาการ
จำนวนตอนออกอากาศ : 40 ตอนจบ ตอนละ 45 นาที
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น